ข้อดี-ข้อเสียไฟหน้ารถ ไฟหน้าฮาโลเจน ไฟหน้าซีนอน รวมทั้งไฟหน้า LED แต่ละแบบมีจุดเด่น-ข้อด้อยไม่เหมือนกันอย่างไร แล้วไฟหน้าแบบไหนจึงจะเรียกว่ายอดเยี่ยม?
เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีไฟหน้ามีการพัฒนาก้าวหน้าไปจากเมื่อก่อนมาก ไฟหน้าในรถยนต์ระดับหรูบางรุ่นถึงขนาดที่ว่าสามารถเชื่อมต่อกับระบบนำทางเพื่อปรับองศาส่องสว่างก่อนที่ตัวรถยนต์จะเริ่มเข้าโค้งเสียอีก บางรุ่นยังสามารถเปิดไฟสูงเฉพาะส่วนได้เพื่อไม่ให้แสงแยงตารถยนต์คันหน้า ควบคู่ไปกับทัศนวิสัยอันดีเยี่ยม
ข้อดี-ข้อเสียไฟหน้ารถ แต่ไม่ว่าไฟหน้าจะมีฟังก์ชั่นล้ำหน้าแค่ไหน แต่แหล่งกำเนิดแสงสว่างโดยปกติจะมาจากหลอดทั้งหมด 3 แบบ คือ ฮาโลเจน (Halogen), ซีนอน (HID) และก็แอลอีดี (LED) โดยแต่ละแบบมีข้อดี-ข้อเสียไม่เหมือนกันออกไป ดังนี้
หลอดฮาโลเจน (Halogen)
หลอดไฟหน้าฮาโลเจนเป็นแบบที่นิยมใช้กันอย่างล้นหลามมาอย่างยาวนาน ให้แสงสว่างในโทนสีนวลดูสบายตา สามารถติดตั้งกับโคมแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ทั่วๆไปได้ ทำให้มีต้นทุนสำหรับการผลิตต่ำ อีกทั้งยังสามารถหาซื้อเปลี่ยนได้ง่าย แล้วก็มีราคาเพียงหลักร้อยบาท ไปจนกระทั่งพันต้นๆเพียงแค่นั้น แต่ว่าข้อด้อยของหลอดฮาโลเจนอยู่ที่ความสว่างค่อนข้างจะน้อยเมื่อเทียบกับหลอดไฟประเภทอื่น
หลอดไฟหน้าฮาโลเจนมีขั้วให้เลือกค่อนข้างมาก โดยขั้วที่ได้รับความนิยมเป็นขั้วแบบ H4 ที่รวมเอาไฟต่ำแล้วก็ไฟสูงเข้าไว้ร่วมกัน มักพบได้ในรถราคาประหยัด ถึงกระนั้น การเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าหน้าจำเป็นจะต้องใช้ขั้วเดิมตามที่รถยนต์แต่ละรุ่นกำหนดไว้
หลอดซีนอน (HID)
หลอดไฟแบบซีนอน หรือ HID (High Intensity Discharge) เป็นหลอดไฟที่ได้รับความนิยมตั้งแต่ช่วงปี 2000 ขึ้นมา ให้โทนสีขาวดูทันสมัย โดยจะมีอุณหภูมิสีตั้งแต่ 4200K ขึ้นไป ซึ่งหลอดซีนอนจะให้ความสว่างกว่าหลอดฮาโลเจนอย่างเห็นได้ชัด จำเป็นต้องติดตั้งเข้ากับโคมที่ดีไซน์มาโดยเฉพาะ (ส่วนมากจะเป็นโคมแบบโปรเจคเตอร์ แต่ในยุคแรกๆก็มีการติดตั้งกับโคมมัลติรีเฟล็กเตอร์ที่ออกแบบสำหรับหลอด HID ด้วยเหมือนกัน จะมองเห็นได้จาก Toyota Camry รหัส AVC30 หรือ Mercedes-Benz E-Class รหัส W210 ฯลฯ)
ส่วนข้อเสียของหลอดแบบ HID นั้น แม้ว่าจะแก่การใช้แรงงานใกล้เคียงกับหลอดฮาโลเจน แต่ว่าราคาอะไหล่ของหลอดซีนอนค่อนข้างจะสูง หากเป็นสมัยก่อนอาจมีราคาแพงถึงหลอดละ 4,000 บาทขึ้นไป แต่ว่าปัจจุบันเริ่มมีของจีนวางจำหน่ายให้เห็นในราคาหลักร้อย แต่หากเป็นแบรนด์ที่โด่งดังก็ยังคงป้วนเปี้ยนอยู่ในระดับหลักพันบาท
หลอดแอลอีดี (LED)
ไฟหน้าLEDกำลังเป็นยอดนิยมเป็นอย่างมากในขณะนี้ เนื่องจากมีต้นทุนต่ำกว่าสมัยก่อน อีกทั้งผู้ผลิตยังสามารถออกแบบให้มีลักษณะหลากหลายเพื่อเข้าส่วนต่างๆของตัวรถยนต์ ยิ่งไปกว่านี้ ไฟหน้า LED ยังให้แสงสว่างในโทนสีขาวอมฟ้าดูสวยงาม มีความเข้มของแสงมากยิ่งกว่าซีนอนรวมทั้งฮาโลเจนอย่างชัดเจน กินไฟต่ำ รวมทั้งมีอายุการใช้แรงงานยาวนาน
ส่วนข้อเสียของหลอด LED นั้น มักเป็นเรื่องของการซ่อมบำรุง เนื่องจากหลอด LED มีอายุการใช้แรงงานที่ยาวนานอยู่แล้ว แต่ส่วนที่เสียมักเกี่ยวกับแผงวงจรที่เสื่อมสภาพเสียมากกว่า ทำให้การเปลี่ยนแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง
ปัจจุบันมีหลอดไฟหน้าแบบ HID และ LED วางขายอย่างมากมาย แต่ว่าก็ไม่ควรนำมาใช้กับโคมที่ดีไซน์มาสำหรับหลอดฮาโลเจนโดยเด็ดขาด เนื่องจากว่าจะมีผลให้แสงที่ได้สว่างจ้ารวมทั้งฟุ้งจนถึงก่อกวนสายตาผู้ร่วมเดินทาง ทางที่ดีหากรู้สึกว่าไฟหน้ารถยนต์แบบฮาโลเจนเดิมไม่สว่าง ควรจะกลายเป็นหลอดแบบอัปเกรดจะดียิ่งกว่า ตัวอย่างเช่น Phillips X-treme Vision, Osram Nightbreaker อื่นๆอีกมากมาย ซึ่งจะมีความสว่างมากยิ่งกว่าหลอดฮาโลเจนทั่วๆไปและก็เพียงพอต่อการใช้แรงงาน
นอกนั้น ปัจจุบันนี้ยังมีเทคโนโลยีไฟหน้าแบบเลเซอร์ (Laser) โดยใช้แสงเลเซอร์มาเป็นแหล่งกำเนิดแสงไฟ ทำให้มีความสว่างมากกว่าทั้ง 3 แบบข้างต้น พบได้ในรถยนต์ระดับหรูบางแบรนด์ อาทิเช่น BMW รวมทั้ง Audi แต่ถึงอย่างไร ไฟหน้าแบบเลเซอร์จะถูกสงวนไว้ใช้กับไฟสูง และก็ควรจะเป็นรถยนต์ที่ติดตั้งระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติแค่นั้น โดยชุดไฟหลักจะยังคงเป็นแบบ แอลอีดี ปกติ
ไฟสูงแบบเลเซอร์จะสว่างขึ้นเองต่อเมื่อถนนมืดสนิทและไม่มีรถยนต์คันอื่นอยู่ตรงหน้า อาศัยจากการคำนวณผ่านกล้องถ่ายรูปที่ติดตั้งไว้รอบๆกระจกบังลมหน้า เพื่อป้องกันความผิดพลาดของคนขับขี่ที่อาจเผลอเปิดไฟสูงค้างไว้จนถึงเป็นอันตรายต่อผู้ร่วมเดินทาง แม้กระนั้นถ้าเกิดคนขับขี่อยากได้เปิดไฟสูงด้วยตัวเอง เช่น กระพริบไฟขอทาง จะเป็นการใช้หลอด LED ธรรมดา ไม่ใช่ไฟแบบเลเซอร์แต่อย่างใด
สนใจศึกษา ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับรถ เพิ่มเติม
อ่านบทความดีๆผ่านทางเฟสบุ๊ค Autolifestyle
แตกต่างกันมาก3แบบนี้